วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทที่ 3 อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 


อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ คือ 
     1.การกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันทำให้เหยื่อได้รับ ความเสียหาย และผู้กระทำได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 
     2.การกระทำผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ และในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน 
     การประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อเศรษฐกิจของประเทศจำนวนมหาศาล อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ จึงจัดเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมทางธุรกิจรูปแบบ หนึ่งที่มีความสำคัญ 
อาชญากรทางคอมพิวเตอร์ 
     1. พวกเด็กหัดใหม่ (Novice)
     2. พวกวิกลจริต (Deranged persons)
     3. อาชญากรที่รวมกลุ่มกระทำผิด (Organized crime)
     4. อาชญากรอาชีพ (Career)
     5. พวกหัวพัฒนา มีความก้าวหน้า(Con artists)
     6. พวกคลั่งลัทธิ(Dremer) / พวกช่างคิดช่างฝัน(Ideologues)
     7. ผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านคอมพิวเตอร์อย่างดี (Hacker/Cracker )
Hacker หมายถึง บุคคลผู้ที่เป็นอัจฉริยะ มีความรู้ในระบบคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี สามารถเข้าไปถึงข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเจาะผ่านระบบ รักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ได้ แต่อาจไม่แสวงหาผลประโยชน์ 
Cracker หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดีจนสามารถเข้าสู่ระบบได้ เพื่อเข้าไปทำลายหรือลบแฟ้มข้อมูล หรือทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ เสียหายรวมทั้งการทำลายระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ 
รูปแบบของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 
     ปัจุบันทั่วโลก ได้จำแนกประเภทอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ 9 ประเภท (ตามข้อมูลคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจร่างกฎหมายอาชญากรรมทาคอมพิวเตอร์) 
     1. การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงการขโมยประโยชน์ในการลักลอบใช้บริการ 
     2. การปกปิดความผิดของตัวเอง โดยใช้ระบบการสื่อสาร 
     3. การละเมิดลิขสิทธิ์ ปลอมแปลงรูปแบบเลียนแบระบบซอฟแวร์โดยมิชอบ 
     4. การเผยแพร่ภาพ เสียง ลามก อนาจาร และข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 
     5. การฟอกเงิน 
     6. การก่อกวน ระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ทำลายระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบจ่ายน้ำ จ่ายไฟ จราจร 
     7. การหลอกลวงให้ร่วมค้าขาย หรือ ลงทุนปลอม (การทำธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย)
     8. การลักลอบใช้ข้อมูลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบเช่น การขโมยรหัสบัตรเครดิต 
     9. การใช้คอมพิวเตอร์ในการโอนบัญชีผู้อื่นเป็นของตัวเอง 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 4 ลักษณะ คือ 
     1. การเจาะระบบรักษาความปลอดภัย ทางกายภาพ ได้แก่ ตัวอาคาร อุปกรณ์และสื่อต่างๆ 
     2. การเจาะเข้าไปในระบบสื่อสาร และการ รักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ข้อมูลต่างๆ 
     3. เป็นการเจาะเข้าสู่ระบบรักษาความปลอดภัย ของระบบปฏิบัติการ(Operating System)
     4. เป็นการเจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยใช้อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางในการกระทำความผิด 
ตัวอย่างอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 
1.Morris Case การเผยแพร่หนอนคอมพิวเตอร์ (Worm)โดยนายโรเบิร์ต ที มอริส นักศึกษา สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล 
     หนอน (worm) สามารถระบาดติดเชื้อจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่องหนึ่ง ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ โดยมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว 
     ;ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่ให้รอลงอาญา โดยให้บริการสังคมเป็นเวลา 400 ชั่วโมง และปรับเป็นเงิน 10,050 ดอลลาร์สหรัฐ 
2.“141 Hackers” และ “War Game” ภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1983 
     •“141 Hackers” การเจาะระบบสาธารณูปโภคของสหรัฐอเมริกา 
     •“War Game” การเจาะระบบจนกระทั่งเกือบเกิดสงครามปรมาณู ระหว่าง 
     •สหรัฐอเมริกา และโซเวียต 
     •ทั้งสองเรื่อง ถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมของสภาคองเกรส (Congress)
3. ไวรัส Logic bomb/Worm ใน Yahoo
     •ทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการของ Yahoo ในปี 1997
     •ทำลายระบบคอมพิวเตอร์นับล้านเครื่อง 
4. การเจาะระบบข้อมูลของ Kevin Mitnick
     •โดยเจาะระบบของนักฟิสิกส์ Shimomura ของ San Diego
     •Supercomputer center
     •เจาะระบบการบริการออนไลน์ The Well
     •เจาะระบบโทรศัพท์มือถือ 
     •ไม่แสวงหาผลประโยชน์ 
     •Mitnick เจาะระบบข้อมูลเหมือนคนติดยาเสพติด ไม่สามารถเลิกได้ 
5. การทุจริตในบริษัทประกัน 
     เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินไหมทดแทนของบริษัท ทำการทุจริตเงินของ บริษัทจำนวน 206,000 เหรียญ ในรอบ 2 ปี ใช้ความรู้เรื่องสินไหมทดแทน โดยใช้ชื่อผู้เสียหายปลอมแต่ใช้ที่อยู่ของตัวเองและแฟน 
6. ระบบคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัยมิชิแกน 
      ระบบข้อมูลซึ่งประมวลโดยคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้สามารถจัดการข้อมูลได้มากกว่า 1 คน ทำให้ระบบข้อมูลนักศึกษา 43,000 คนได้รับความเสียหาย คะแนนเฉลี่ยถูกเปลี่ยน ข้อมูลบางอย่างถูกลบ 
7. การทุจริตในบริษัทแฟรนไชส์ 
      เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ของบริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ ทำการทุจริต ลบข้อมูลสินค้าคงคลัง และค่าแรงของแฟรนไชส์ 400 แห่ง 
8. การทุจริตในกรมสวัสดิการสังคมของแคลิฟอร์เนีย 
      หัวหน้าและเสมียน ยักยอกเงินไปกว่า 300,000 เหรียญ ภายในหนึ่งปีโดยการร่วมกันจัดทำใบเบิกปลอม และไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติที่ถุกต้อง 
ธุรกิจบน Internet
     ค้าขายด้วย E-Commerce (Electronics commerce)
ธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง 
     1. ธุรกิจขายตรง 
     2. ร้านขายหนังสือ 
     3. ธุรกิจร้านค้าอาหาร 
E-commerce กับธุรกิจผิดกฎหมาย 
     ปัจจุบันได้มีการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในทางผิดกฎหมายมากขึ้น เช่น การขายหนังสือลามก, วีดีโอลามก, สื่อลามกประเภทต่างๆ 
     •เป็นแหล่งโอนเงินที่ผิดกฎหมาย 
     •รวมทั้งใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงเพื่อกระทำความผิด 
     •เป็นต้น 
ผลกระทบของอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 
     •ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ 
     •ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 
     •ผลกระทบต่อจริยธรรม เช่น การใช้อินเตอร์เน็ตในการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก 
     •ผลกระทบต่อการประกอบอาชญากรรมประเภทอื่น ๆ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น